Last updated: 30 ม.ค. 2568 | 12 จำนวนผู้เข้าชม |
LIGHTING..
แสงสว่างกับการตกแต่งภายใน มีผลอย่างยิ่งต่อความสวยงามและความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย โดยแสงนั้นแบ่งได้หลายประเภท ยกตัวอย่าง
Direct light หมายถึง แสงสว่างภายในพื้นที่โดยตรง เช่น ดาวไลท์ที่อยู่บนฝ้า หรือโคมตกแต่ง ซึ่งการวางตำแหน่งดวงโคม ผู้ออกแบบจะจัดวางตามการใช้งานและคำนึงถึงแสงสว่าง ให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานในแต่ละโซน
Indirect light หมายถึง แสงที่เพิ่มบรรยากาศทางอ้อม ที่ซ่อนตามหลืบฝ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ โดยแสงประเภทนี้อาจจะไม่ได้ความสว่างภาพรวมทั้งห้อง แต่มีไว้เพื่อเพิ่มบรรยากาศและความสวยงาม ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบว่าต้องการเน้นจุดไหน
โดยแสงที่ใช้ในปัจจุบันมีให้เลือกเยอะมาก แต่หลักๆแบบมาตราฐาน ภาษาผู้ออกแบบ จะใช้กันประมาณ 3 ประเภท
1. Warm white ( 3000k )หรือแสงเหลือง ซึ่งแสงประเภทนี้จะเน้นให้บรรยากาศและความรู้สึกที่เมื่อมองแล้ว จะทำให้อบอุ่น และสวยงาม
2. Cool white ( 4000k )หรือแสงผสม แสงที่ได้จะออกสีขาว นวลตา ไม่ได้สว่างขาวจนเกินไป เจ้าของบ้านมักจะเลือกแสงชนิดนี้กับบริเวณที่ต้องการเห็นค่าสีที่ไม่หลอกตา เช่น ในตู้เสื้อผ้า เป็นต้น
3. Day light ( 5000k )หรือแสงขาว แสงชนิดนี้จะเน้นขาว สว่าง เหมาะสำหรับร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ที่มีสินค้าจำนวนมาก ร้านจะดูสว่าง สะอาดตา
จะเห็นว่าแสง มีความสำคัญมากๆกับการตกแต่งภายใน ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภท และชนิดของงานนั้นๆ
แม้กระทั้งกำลังไฟที่ให้แสงสว่าง ก็มีผล เช่น ถ้าห้องๆนั้นมีฝ้าที่สูงมาก กำลังวัตต์ที่ใช้ก็ต้องสูงขึ้น เพื่อให้แสงส่องลงมาถึง
ท่านสามารถหาข้อมูลเรื่องแสง จากทาง Internet หรือผู้ออกแบบ หรือร้านค้าที่ขายโคมไฟได้ หวังว่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆที่นำมาฝาก คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
สันติ โล่ห์พัฒนานนท์ ( ผู้เขียน )
ผู้ก่อตั้ง บริษัท Continues to จำกัด
www.continuesto.com
16 ธ.ค. 2563
30 ม.ค. 2568
3 ก.ย. 2563
30 ม.ค. 2568